10 ข้อเรียนรู้ดีๆ ที่ได้จากการทำธุรกิจร้านกาแฟ

 In Startups & SME

ธุรกิจร้านกาแฟ เป็นอีกหนึ่งประเภทธุรกิจที่อยู่ในความฝันของใครหลายคน โดยเฉพาะกับผู้ที่ชอบดื่มด่ำกับรสชาติของกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ ทั้งนี้ สมาคมกาแฟพิเศษไทย ได้คาดการณ์แนวโน้มการเติบโตของสภาวะตลาดธุรกิจกาแฟปี 2560 ไว้ว่า มีอัตราเติบโต 15 -20% เลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนเอง เป็นอีกหนึ่งคนที่กำลังทำธุรกิจร้านกาแฟ และค้นพบข้อเรียนรู้ต่างๆ ในระหว่างที่ดำเนินธุรกิจมากมาย จึงอยากแบ่งปันข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย ให้กับมือใหม่ที่สนใจ โดยได้แบ่งเป็น 10 ข้อเรียนรู้ที่ได้รับต่อไปนี้


1.
  เริ่มต้นด้วยเรื่องของทำเล ทำเลของที่ตั้งร้านมีส่วนสำคัญต่อยอดขายอย่างมาก ฉะนั้น ก่อนตัดสินใจเลือกทำเลจึงควรศึกษาหลายๆ ปัจจัยให้ดีเสียก่อน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเป้าหมาย พฤติกรรมและลักษณะของกลุ่มเป้าหมายในทำเลนั้นๆ สถานที่ตั้งที่มองเห็นได้อย่างชัดเจน รวมไปถึงเรื่องของคู่แข่งด้วย  ซึ่งถ้าหากมีคู่แข่งอยู่แล้ว ควรศึกษาความเป็นไปได้เกี่ยวกับยอดขายของคู่แข่ง สังเกตโดยรวมว่าในพื้นที่บริเวณนั้นมีโอกาสขายได้กี่แก้วต่อวัน เหมาะแก่การตัดสินใจเลือกหรือไม่

2. รูปแบบของร้านมีผลต่อการตัดสินใจเข้าใช้บริการของกลุ่มลูกค้าไม่น้อย กล่าวคือ รูปแบบและการตกแต่งร้านควรมีความสัมพันธ์กับลักษณะของกลุ่มเป้าหมายในทำเลนั้นๆ หากทำเลนั้นมีผู้คนที่มีกำลังซื้อไม่มาก แต่รูปแบบของร้านที่ทำมีความหรูหราเกินไป ก็ส่งผลให้การตัดสินใจเข้ามาใช้บริการเป็นไปได้ยากเช่นกัน

3. มือใหม่อาจจะชงกาแฟแล้วได้รสชาติที่ยังไม่คงที่ในแต่ละแก้ว  อย่างไรก็ตาม รสชาติของกาแฟหนึ่งแก้ว มีปัจจัยหลากหลายเข้ามาเกี่ยวข้อง  ทั้งเมล็ดกาแฟที่เลือกใช้  ระดับการคั่วเมล็ด ระดับการบดเมล็ด ปริมาณการอัดกาแฟเข้ากับก้านชง ระยะเวลาในการกลั่นน้ำกาแฟ อุณหภูมิของน้ำ ประสิทธิภาพของเครื่องที่ใช้ชง รวมไปถึงการปรุงรส ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลต้องอาศัยการเรียนรู้ ประสบการณ์ และความสามารถของบาริสต้าหรือผู้ชงทั้งสิ้น

4. เครื่องชงกาแฟมีราคาหลายระดับ ตั้งแต่หลักหมื่นต้นๆ ไปจนถึงหลักแสนบาท ซึ่งแน่นอนว่าเครื่องที่มีราคาแพงกว่า ย่อมมีประสิทธิภาพที่ดีกว่า สามารถรีดเค้นน้ำกาแฟออกมาได้มากกว่า แต่ทั้งนี้ การเลือกเครื่องชงกาแฟควรมีความสัมพันธ์กับราคาของกาแฟที่จะตั้งขายด้วย เช่น เมื่อซื้อเครื่องชงราคาหลักแสนมา ก็ไม่ควรตั้งราคาที่ต่ำเกินไป เพราะกว่าจะได้กำไรคืนทุนต้องอาศัยระยะเวลาที่ยาวนาน

5. การสร้าง “ลูกค้าประจำ” เป็นสิ่งที่ต้องทำให้ได้ และในขณะเดียวกัน การรักษาพวกเขาเอาไว้ ให้กลับมาใช้บริการกับเราตราบนานเท่านานก็เป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเช่นกัน

6. ลูกค้าแต่ละคนมีความชื่นชอบในรสชาติของกาแฟที่ไม่เหมือนกัน บาริสต้าหรือผู้ชงควรสังเกตและใช้การจดจำ เพื่อที่จะได้ทำได้ตรงต่อความต้องการของพวกเขา

7. นอกจากวัตถุดิบหลักอย่างเมล็ดกาแฟ รวมถึงความสามารถของผู้ชงแล้ว อีกหนึ่งองค์ประกอบที่อยู่ในแก้วกาแฟ ซึ่งไม่ควรมองข้ามด้วยเช่นกันก็คือ “น้ำแข็ง” นั่นเอง

ทั้งนี้ กลุ่มลูกค้าหลายคนให้ความสำคัญกับรูปแบบของน้ำแข็งที่แต่ละร้านเลือกใช้ โดยส่วนมากจะพึงพอใจกับ “น้ำแข็งหลอดเล็ก” มากกว่า “น้ำแข็งป่น”  ถึงแม้ว่าน้ำแข็งจะอยู่ในแก้วและไม่ได้มองเห็นอย่างชัดเจนก็ตาม

8. การมีเมนูประจำร้าน ซึ่งเป็นเมนูที่ทางร้านคิดค้นขึ้นเอง จะช่วยสร้างความแตกต่าง เพิ่มมูลค่า และทำให้ร้านมีเอกลักษณ์ได้เช่นกัน

9. นอกไปจากกาแฟแล้ว การมีเมนูขายเสริมอื่นๆ อย่างเช่นขนมปังปิ้ง เบเกอรี่ หรือเมนูเครื่องดื่มอื่นๆ ด้วยก็เป็นสิ่งที่ดีไม่น้อย เพราะสามารถเสริมหรือทดแทนรายได้จากการขายกาแฟเป็นหลักได้

10. ไม่เพียงแต่การทำการตลาดออฟไลน์ อย่างการสะสมคูปอง 10 แถม 1 หรือโปรโมชั่นลดราคา จะช่วยดึงดูดลูกค้าได้เท่านั้น แต่การทำการตลาดออนไลน์ อย่างเช่นการใช้งบเล็กๆ น้อยๆ ในการโปรโมทโพส เช่นโพสที่เป็นภาพถ่ายเมนูใหม่ๆ พร้อมข้อมูลโปรโมชั่นใน fanpage  facebook  ก็สามารถดึงดูดกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ในระแวกใกล้เคียงให้เข้ามาใช้บริการได้เช่นกัน

 

อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงทัศนะและข้อมูลที่ผู้เขียนได้พบเจอจากประสบการณ์ส่วนตัวเท่านั้น  ยังคงมีแง่มุมอื่นๆ ที่สามารถเกิดขึ้นและมีความแตกต่างกันได้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยที่แต่ละบุคคลพบเจอ

ทั้งนี้ การทำทุกๆ ธุรกิจให้ประสบความสำเร็จนั้น ไม่ใช่เรื่องที่ง่าย แต่ก็ไม่ยากจนเกินไป ขอเพียงศึกษา วางแผน ลงมือทำ และนำข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นมาใช้เป็นบทเรียน เพื่อพัฒนาปรับปรุงธุรกิจให้ดียิ่งขึ้นเท่านั้นเอง

 

สำหรับผู้ที่สนใจในเรื่องราวของธุรกิจ หรือการเริ่มต้นธุรกิจ รวมไปถึงเรื่องราวของเทรนใหม่ๆ ในโซเชียลมีเดีย ก็สามารถติดตามบทความต่างๆ ของเราเพิ่มเติมได้ที่ Line @marketingwow  Facebook    twitter

เรายินดีเสมอที่จะเสิร์ฟเรื่องราวที่น่าสนใจ ส่งตรงถึงหน้าจอคุณ
Recommended Posts