LINE NEXPLOSION 2020 เผยกลยุทธ์สร้างคอนเทนต์ขยายสู่ตลาดอาเซียน

 In Advertorial, Digital Marketing, Digital Planning, Update

LINE NEXPLOSION 2020 งานแสดงวิสัยทัศน์และกลยุทธ์คอนเทนต์ใหม่จากLINE โดยในงานนี้ ได้เรียนเชิญผู้บริหารมาร่วมแบ่งปันมุมมองในด้านต่าง ๆ และเผยเป้าหมายในปีนี้คือจะขยายแพลตฟอร์มตัวเองไปยังอาเซียน

ปัจจุบันLINEยังคงเป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมอันดับหนึ่งในประเทศไทย เพราะว่าสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้ทุกเพศทุกวัย โดยนายกณพ ศุภมานพ รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรกิจคอนเทนต์ ได้แถลงเป้าหมายของธุรกิจคอนเทนต์ใหม่ในปี 2563-2565 ตั้งใจที่จะสร้างคอนเทนต์ออนไลน์ที่สามารถไปแข่งขันในตลาดโลกได้ ตลาดระยะเวลาที่ผ่านมา LINE TV และ LINE TODAY มีการเติบโตมากที่สุดในบรรดาธุรกิจของคอนเทนต์ของLINE

LINE NEXPLOSION

ในส่วนของLINE TODAY ตั้งใจจะให้เป็นแพลตฟอร์มที่รวมข่าวสารและบทความที่มีสาระ ใช้เทคโนโลยี AI ของLINEมาใช้สำหรับการเสิร์ฟคอนเทนต์ให้ตรงกลุ่ม มีการปรับเปลี่ยนหน้า UX และ UI ใหม่ทั้งหมด เพื่อให้ใช้งานง่ายขึ้น โดยข้อมูลสำหรับ LINE TODAY มีดังนี้

  • พาร์ทเนอร์คอนเทนต์นั้นมีสื่อและสำนักพิมพ์ทั้งออนไลน์และออฟไลน์กว่า 260 ราย 
  • ช่วงอายุของผู้ใช้งานจะอยู่ที่ 25-34 ปี 
  • เป็นผู้หญิงมากถึง 59% 
  • ช่วงเวลาพีคที่มีผู้ใช้งานเข้ามาอ่านคอนเทนต์มากที่สุดมีด้วยกัน 2 เวลาคือ 18.00-20.00 น. ซึ่งเป็นเวลาเลิกงานเดินทางกลับบ้านและ 21.00-23.00 น. เวลาก่อนเข้านอน 
  • คอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมที่สุดคือ บันเทิง, ไลฟ์สไตล์, แฟชัน, สุขภาพและกีฬา

ด้านของLINE TVยังคงเป็นแพลตฟอร์มคอนเทนต์อันดับหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากในประเทศไทย โดยในปีนี้ตั้งใจจะเป็น Everyday Enjoyment Hub ที่จะเหมาะสมกับผู้ใช้งานทุกเพศทุกวัย โดยข้อมูลสำหรับLINE TVมีดังนี้

  • มีผู้ใช้งานมากกว่า 40 ล้านราย เฉลี่ย 176 นาทีต่อวัน
  • ช่วงเวลาพีคที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดด้วยกัน 3 เวลา ได้แก่ เวลา 12.00-14.00 น. ช่วงเวลาพักกลางวัน เวลา 15.00-18.00 น. ช่วงเวลาหลังเลิกเรียนและช่วงเวลาเดินทางกลับบ้าน เวลา 20.00-22.00 น. เวลาพักผ่อนอยู่ที่บ้าน
  • 87% เป็นคนที่เสพย์สื่อจากทั้งออนไลน์และออฟไลน์ 
  • มีออริจินัลทีวีแล้วทั้งหมด 72 เรื่อง 
  • ผู้ชมLINE TV Original เพิ่มขึ้นมากถึง 32% จากปีที่ผ่านมา
  • เพิ่มความหลากหลายของประเภทคอนเทนต์มากขึ้น เช่น Animation, Esports, ซิทคอม, ไฮไลท์กีฬา เป็นต้น
  • เพิ่มความสะดวกในการติดตั้งแอปพลิเคชันบน Smart TV ให้ทำงานร่วมกับ Smartphone ได้
  • มุ่งขยายตลาดเพิ่มขึ้นไปยังแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

นอกจากนี้ยังเผย Original Content มาด้วยกันทั้งหมด 6 เรื่องด้วยกัน ได้แก่

  • Mother เรียกฉันว่า…แม่
  • เป็นต่อ Uncensored สำมะเล เพลย์บอย
  • วิน 21 เด็ดใจเธอ
  • BKPP The Series
  • The Graduate
  • The Secret เกมรัก เกมลับ

LINE NEXPLOSION

นายนรสิทธิ์ สิทธิเวชวิจิตร รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการพาณิชย์ เผยข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับฝั่ง Business Solution

ด้านการบริการโฆษณาบนLINE TV

  • กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าโฆษณาสูงสุดบนLINE TV ได้แก่ กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม กลุ่มความงามและสุขภาพ
  • กลุ่มอุตสาหกรรมที่มียอดการเติบโตสูงสุดในการลงโฆษณาบนLINE TV ได้แก่ E-commerce
  • อัตราการคลิกสูงกว่าค่าเฉลี่ยตลาดถึง 52% และเกิด Intention to buy 49%

ด้านการบริการโฆษณาบนLINE TODAY

  • เกิด Intention to buy บนLINE TODAY มากถึง 60%
  • กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าโฆษณาสูงสุดบนLINE TODAYได้แก่ กลุ่มยานยนต์ กลุ่มเทคโนโลยีและการสื่อสาร และกลุ่ม E-commerce
  • กลุ่มอุตสาหกรรมที่มียอดการเติบโตสูงสุดในการลงโฆษณาบนLINE TODAY ได้แก่ องค์กรภาครัฐและพลังงาน ธุรกิจค้าปลีกและกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม

ส่วนกลยุทธ์สำคัญสำหรับฝั่ง Business Solution ทางด้านLINE TVจะเน้นการสร้าง Quality Reach เพื่อให้นักการตลาดสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและดึงดูดกลุ่มเป้าหมายให้ได้มากกว่าเดิม ส่วนLINE TODAY เน้นการสร้าง Quality Impact เพื่อตอกย้ำการเป็น “พอร์ทัลออนไลน์สำหรับการอ่านข่าวสารและบทความคุณภาพอันดับหนึ่งของไทย” 

และได้มีการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่ชื่อว่า “Story Linked” ช่วยให้สามารถลงโฆษณาบนแพลตฟอร์มLINEได้ตรงตามความต้องการของนักโฆษณาและผู้ชม ซึ่งได้มีการทดสอบมาแล้วว่า ช่วยเพิ่มยอดการดูโฆษณาได้มากถึง 2.5 เท่าและเพิ่มอัตราการคลิกได้ถึง 80% โดยรูปแบบของโฆษณาจะมีการแบ่งเป็นตอน ๆ ลักษะคล้าย Sequential Ads ซึ่งช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมของโฆษณาบนLINE TVและLINE TODAY ได้

ในช่วงท้ายได้มีการประกาศการจับมือกับพันธมิตรยักษ์ใหญ่ในวงการโฆษณา Out-of-home และธุรกิจขนส่งของไทย 2 เจ้าด้วยกันได้แก่ VGI และ BMN เพื่อสร้างการรับรู้และเข้าถึงลูกค้า พร้อมทั้งตอบโจทย์นักโฆษณาที่ใช้บริการบนแพลตฟอร์มให้สามารถเชื่อมต่อได้ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ได้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น และปิดท้ายด้วยการร่วมมือกันระหว่างLINE และ Nielsen ประเทศไทย เปิดตัว “LINE Reach Curve” เครื่องมือที่ช่วยให้นักการตลาดสามารถวางแผนลงโฆษณาบนแพลตฟอร์มLINEให้เหมาะสมกับงบประมาณ เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่นักโฆษณาและธุรกิจต่าง ๆ ที่เป็นพันธมิตรกับLINE

 

ที่มา : [1], [2], [3]

Recommended Posts