Ahrefs เครื่องมือ ทำ SEO ยอดนิยม ที่ไม่ว่าใครก็เลือกใช้

 In Uncategorized

ในปัจจุบัน การทำ SEO ยังไม่ถือว่าเป็นเรื่องเก่าสำหรับนักพัฒนาทั้งหลาย และเครื่องมือที่พัฒนามาเพื่อรองรับการทำ SEO ก็มีมากขึ้นทุกวัน แต่ Ahrefs ยังเป็นเครื่องมือที่ได้รับความนิยม แถมยังมีผู้ใช้งานทุกวัน วันนี้ เราจะพาไปรู้จักกับเจ้าเครื่องมือนี้กัน ว่าคืออะไร ใช้งานได้อย่างไรและทำไมใคร ๆ ก็นิยมใช้กัน

Ahrefs คือ อะไร?

Ahrefs

Ahrefsเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ช่วยในการทำ SEO นั่นดีที่สุดอีกเครื่องมือหนึ่ง โดยเป็นเครื่องมือที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยเครื่องมือนี้มีฟีเจอร์ที่ช่วยให้คุณวางแผน ติดตามผล รวมถึงวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาใช้ทำ SEO ต่อ ข้อมูลเหล่านั้นมักจะเป็นข้อมูลเชิงเทคนิค ยกตัวอย่างเช่น

  • จำนวนของ Search Volume ที่มีจำนวนมาก แต่มีจำนวนคลิกลิงก์ที่น้อยกว่าที่ควรเป็น ผู้ใช้งานจะได้เห็นถึงรายละเอียดเหล่านี้ของ Search Volume ในคำนั้น
  • จำนวนคลิกที่เกิดจาก Organic Search หรือ Paid Search

โดยเครื่องมือนี้ เปิดให้ใช้ทั้งรูปแบบฟรีและแบบเสียเงิน เริ่มต้นที่ 7 วัน $7 และแพ็กเกจแรกเริ่มต้นที่ $99 แต่เครื่องมือฟรี ก็มีฟีเจอร์ที่ใช้งานได้หลายอย่าง โดยฟีเจอร์ที่เปิดให้ใช้งานฟรีที่อยากแนะนำให้ลองใช้กัน มีดังนี้

Backlink Checker

เช็ก Backlink ของเว็บไซต์ได้ฟรี รูปแบบการใช้งานง่าย แค่เข้าไปที่ https://ahrefs.com/backlink-checker แล้ววางลิงก์ลงไป เพื่อเช็ก หลังจากนั้นให้กด Check backlinks ซึ่งจะมีให้เลือกอีก 2 ตัวเลือกย่อย คือ

  • Exact URL เช็กเฉพาะหน้านั้น ๆ
  • Subdomains เช็กทั้งเว็บไซต์ ทุกหน้า ทุก Subdomain

ซึ่งเมื่อเช็ก คุณจะเห็นข้อมูลคะแนนของเว็บไซต์ จำนวน Backlinks ทั้งหมด จำนวนเว็บไซต์ที่มีการลิงก์มาหา หน้าเว็บที่มีคนลิงก์มาหาเยอะที่สุด

Keyword Generator

ฟีเจอรที่ช่วยให้คุณค้นหาไอเดียในการคิดคีย์เวิร์ด สามารถเจาะจงหาได้ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศ แถมยังสามารถดูได้อีกว่าคีย์เวิร์ดที่ต้องการจะใช้นั้นมีเปอร์เซนต์ในการติดอันดับมากน้อยแค่ไหน

SERP Checker

สำหรับตัวนี้จะช่วยเช็กคีย์เวิร์ดที่คู่แข่งใช้ ว่าเป็นอย่างไร โดยตัวฟรีจะโชว์พียง 3 อันดับแรกเท่านั้น จะได้เห็นว่าคู่แข่งเราใช้คำนี้ไปแล้วได้ผลลัพธ์ดีแค่ไหนและถ้าเราใช้ ต้อง Traffic เท่าไหร่ถึงจะขึ้นไปอยู่อันดับ 1

ฟีเจอร์ด้านต้นเป็นฟีเจอร์ที่เปิดใช้งานได้ฟรี และยังมีฟีเจอร์ที่ต้องเสียค่าบริการรายเดือนเพื่อใช้งาน ทั้งนี้ก็อยู่ที่ผู้ใช้งานว่าจะเลือกใช้อย่างไร ให้เหมาะสมกับ SEO เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณขึ้นไปอยู่ในอันดับแรกของ Google ได้

 

ที่มา : [1], [2]

Recommended Posts