ขี้เกียจทำงาน สลัดอาการนี้ออกไปยังไงดี?
ขี้เกียจทำงาน อาการนี้คงเกิดขึ้นบ่อยๆ กับใครหลายคนใช่ไหมคะ? … ถ้าปล่อยให้อาการนี้อยู่กับเรานานๆ งานการก็คงไม่คืบหน้าไปถึงไหนแน่นอน เพราะฉะนั้นแล้ว เราลองมาสลัดอาการขี้เกียจทิ้งไป ด้วยวิธีง่ายๆ เหล่านี้ดูค่ะ
ลองนึกถึงคนที่ต้องทำงานต่อจากเรา ความขี้เกียจของเรา จะทำให้คนอื่นลำบากหรือเปล่า
หากงานที่รับผิดชอบอยู่ ไม่ใช่งานที่เราต้องดูแลหรือต้องทำให้เสร็จเพียงคนเดียว แต่เป็นงานที่ต้องส่งต่อให้คนอื่นๆ ทำในส่วนถัดไป ก็ให้ลองนึกถึงคนอื่นๆ ที่กำลังรอทำงานต่อจากเราค่ะ อาจจะช่วยให้เราฮึดที่จะทำงานให้เสร็จโดยเร็วที่สุดได้ เพราะหากเรามัวแต่ขี้เกียจ ก็จะทำให้คนอื่นต้องรอ และงานเสร็จล่าช้านั่นเอง
นึกถึงคู่แข่งเก่งๆ แล้วเปรียบเทียบเขากับตัวเราในตอนนี้
ตัวช่วยหนึ่งที่จะทำให้เราขจัดความขี้เกียจในการทำงานออกไปได้ก็คือ การนึกถึงคู่แข่ง หรือเพื่อนร่วมงานที่ทำในตำแหน่งเดียวกับเรา นึกถึงว่าเค้าพัฒนาไปถึงไหนแล้ว เค้าเก่งแค่ไหน และเราต้องทำยังไงเพื่อที่จะไปให้ไกลได้เหมือนเค้าหรือไกลกว่าเค้านั่นเองค่ะ
ฝึกตัวเองให้พักผ่อนอย่างเต็มอิ่มและเพียงพอ ก่อนวันมาทำงาน
หลายๆ ครั้งที่เราขี้เกียจทำงาน สืบเนื่องมาจากที่เรารู้สึกง่วงนอน อยากจะหลับ รู้สึกสมองอ่อนล้าจนไม่อยากจะคิดอะไรใช่ไหมคะ?
จริงๆ แล้ว เราควรแก้ปัญหานี้ที่ต้นเหตุจะดีที่สุดค่ะ โดยในวันก่อนทำงานควรเข้านอนให้เร็วกว่าเดิม ให้ร่างกายและสมองได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ เมื่อตื่นมาทำงานจะได้รู้สึกสดชื่น รู้สึกว่าสมองตื่น พร้อมที่จะใช้ความคิดอย่างเต็มที่ ซึ่งถ้ายังนอนดึกเหมือนเดิม ความรู้สึกขี้เกียจมันก็จะวนลูปอยู่ทุกวัน จนงานไม่คืบหน้านั่นเองค่ะ
ลองจัดโต๊ะทำงานใหม่ เพื่อสร้างบรรยากาศที่ดีระหว่างทำงาน
ลองปรับเปลี่ยนบรรยากาศบนโต๊ะทำงาน อาจจะจัดเก็บของบนโต๊ะให้เป็นระเบียบมากขึ้น เคลียร์สิ่งของที่ไม่จำเป็นทิ้งไป หรือจะนำของตกแต่งเล็กๆ มาจัดวางเพื่อให้มีอะไรไว้มองเมื่ออยากจะพักสายตา อย่างเช่นต้นไม้สีเขียวเล็กๆ โมเดลตัวโปรด หรือภาพของใครสักคนที่เราชื่นชอบก็ได้
พูดคุยกับเพื่อนร่วมงานในช่วงเวลาพักเบรก
ในเวลาพักเบรก ลองหาโอกาสพูดคุยกับเพื่อนร่วมงาน แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในเรื่องที่ทำให้รู้สึกสนุกสนาน หรือให้พวกเค้าร่วมแชร์ความคิดเห็นเกี่ยวกับเนื้องานที่เรายังคิดไม่ออก เราอาจจะได้ไอเดียอะไรบางอย่างกลับมา และทำให้รู้สึกอยากจะลงมือทำงานที่ค้างคาอยู่ก็ได้
อาจใช้เวลาช่วงพักเบรก โทรหรือแชทไปพูดคุยกับคนที่ให้แรงใจกับเราได้
นอกจากจะพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานแล้ว ก็อาจจะใช้เวลาว่างช่วงพักเบรก โทรศัพท์หรือแชทไปพูดคุยกับคนอื่นๆ ที่สามารถให้แรงใจกับเราเพิ่มด้วยก็ได้
นึกถึงวันหยุดยาวที่กำลังจะมาถึง หรือนึกถึงแพลนท่องเที่ยวที่เรากำลังจะได้ไป
ลองนึกถึงวันหยุดยาวที่กำลังมาถึง หรือนึกถึงแพลนท่องเที่ยวกับเพื่อนๆ ที่เราวางเอาไว้ นึกถึงช่วงเวลาที่เราจะได้หยุดพัก ได้ผ่อนคลายอย่างเต็มที่ ได้ออกไปพบเจอกับสิ่งใหม่ๆ อาจจะช่วยให้เรามีแรงใจในการจัดการกับหน้าที่ที่อยู่ตรงหน้าได้ไม่มากก็น้อย
อย่ามัวแต่กินข้าวอยู่ที่โต๊ะทำงาน ลองเดินออกไปข้างนอกดูบ้าง
ช่วงพักกลางวัน หลายคนห่อข้าวมาจากบ้านแล้วนั่งทานที่โต๊ะทำงานเลย ทำให้ไม่ค่อยได้ลุกเดินออกไปไหน หรือออกไปพบเจอกับบรรยากาศข้างนอกมากนัก …ในวันที่รู้สึกขี้เกียจหรือเบื่อหน่าย ลองออกไปทานข้าวข้างนอกดูบ้าง อาจจะทำให้ความรู้สึกลบๆ ที่มีอยู่ลดน้อยลง หรือได้ไอเดียใหม่ๆ กลับมาก็ได้
นึกถึงความรู้สึกโล่ง เมื่อตอนที่เราทำงานทั้งหมดเสร็จ
มันจะดีแค่ไหน ถ้าเราเคลียร์งานทั้งหมดเสร็จแล้วมีเวลาได้พักหายใจหายคอ ได้ผ่อนคลายตัวเองในช่วงเวลาสั้นๆ ได้ยกภูเขาที่หนักอึ้งออกไปสักที
ลองนึกถึงความรู้สึกนั้นดูค่ะ ความรู้สึกที่ได้ขจัดงานออกไป ไม่ต้องมีงานมาดองค้างอีก อาจจะทำให้ความขี้เกียจทีมีหายไป กลายเป็นว่ามีพลังที่จะเริ่มทำงานตอนนั้นเลยก็ได้
ให้เพลงช่วยกระตุ้น
สำหรับใครหลายคน “เพลง” ถือเป็นสิ่งสำคัญในการทำงานไม่น้อยเลยทีเดียว หลายคนชอบฟังเพลงในขณะที่ทำงานไปด้วย ชอบที่จะใช้เพลงเป็นตัวขับเคลื่อนในการทำงาน หรือใช้เพลงเป็นเครื่องมือในการสร้างอารมณ์และบรรยากาศที่ดีในการทำงาน…ยังไงก็ตาม หากรู้สึกขี้เกียจหรือไม่มีอารมณ์ทำงาน ลองฟังเพลงที่ชอบก่อนเริ่มทำงานดูนะคะ อาจจะช่วยให้เรารู้สึกอยากทำงานได้ไม่มากก็น้อย
นึกถึงผลตอบแทนต่างๆ ที่จะได้รับ
หลายๆ บริษัทมีผลตอบแทนให้กับพนักงานที่ขยัน ตั้งใจทำงาน และทำผลงานได้ดี หากเราปรารถนาที่จะได้ผลตอบแทนนั้น ก็ต้องรีบขจัดความขี้เกียจที่มีทิ้งไปค่ะ
อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกขี้เกียจนั้นเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่การมีความรับผิดชอบต่องานที่ทำ การทำงานให้บรรลุผลตามที่นายจ้างได้ว่าจ้างเรานั้น ก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่น้อยเช่นกัน
สามารถติดตามบทความต่างๆ ของเราเพิ่มเติมได้ที่ Line @marketingwow Facebook twitter
[embedit snippet=”cta1″]
