เทรนด์ 2017 ชี้ คอนเทนต์รูปภาพ วิดีโอ ได้รับความนิยมสูง ในโลกออนไลน์

เทรนด์ 2017 ชี้ คอนเทนต์ภาพ วิดีโอ ได้รับความนิยมสูง ในโลกออนไลน์

Posted 09/01/2017

เทรนด์ 2017 คอนเทนต์ของที่เกี่ยวกับกับ Visual ไม่ว่าจะเป็นภาพหรือวิดีโอ คาดเป็นคอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมมากขึ้น โดยสื่อหลายช่องทาง ต่างชี้ว่าคอนเทนต์ภาพและวิดีโอในปีนี้ มาแรงอย่างแน่นอน

ไม่ว่าจะเป็น Instagram ที่อัพเดตแอปพลิเคชั่น มีฟีเจอร์ใหม่ รองรับการไลฟ์วิดีโอได้แล้ว รวมถึง Instagram Stories เพื่อชิงผู้ใช้งานบางส่วนจาก Snapchat ไม่เพียงแต่แค่นั้น Messenger ยังเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ซึ่งมีลักษณะคล้ายกันอย่าง Messenger Day ซึ่งทั้งสองฟีเจอร์จาก Instagram และ Messenger นี้คล้ายคลึงกับฟีเจอร์จาก Snapchat มากเลยทีเดียว

ยังไม่เพียงแค่นั้น เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา Facebook ได้เข้าซื้อบริษัท FacioMetrics ซึ่งเป็นบริษัทที่ผลิตแอปพลิเคชั่นในชื่อว่า IntraFace ด้วยเทคโนโลยีที่วิเคราะห์ใบหน้าของมนุษย์ และสามารถบอกได้ว่าสีหน้าของเราที่แสดงออกมานั้น มีอารมณ์อย่างไร ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่า Facebook จะนำเทคโนโลยีนี้มาใช้ในผลิตภัณฑ์ของตัวเองแน่นอน

ที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่า Social Media ขนาดใหญ่ ต่างรุกคืบที่จะใช้คอนเทนต์ภาพและวิดีโอ เพื่อสร้างมูลค่าทางการตลาดเพิ่มขึ้นนั่นเอง

เทรนด์ 2017 ไม่เพียงแค่ Social Media เท่านั้น แต่เว็บไซต์ก็รุกคอนเทนต์ภาพและวิดีโอเช่นกัน

เว็บไซต์ในยุคปัจจุบันนี้ต่างขับเคี่ยวเป็นอย่างมาก เนื่องจากเทคโนโลยีดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอินเทอร์เน็ตที่มีความเร็วสูง ผู้คนต่างใช้สมาร์ทโฟนในการเข้าถึงเว็บไซต์ ทำให้คอนเทนต์ทั้งภาพและวิดีโอ ถูกใช้เป็นส่วนหนึ่งของเว็บไซต์ ซึ่งต่างจากเมื่อก่อนที่เว็บไซต์จะมีลักษณะเป็นคอนเทนต์ที่เป็นตัวอักษรเสียส่วนใหญ่ ซึ่งเว็บไซต์ทั้งหลายต่างก็ปรับตัวเช่นกัน เพราะไม่มีใครอยากจะถูกทิ้งไว้เพียงข้างหลัง ยิ่งเว็บไซต์ที่มีรูปภาพและวิดีโอสวยๆ รวมไปถึงรองรับสมาร์ทโฟน ยิ่งทำให้ประสบการณ์ของผู้ใช้งานดีขึ้น

ยอดวิว และยอด Reach ไม่ใช่คำตอบเสมอไป

โดยเฉพาะกลุ่มคน Millennial ที่มีอายุตั้งแต่ 18-29 ปี ที่ใช้โซเชียลมีเดียอย่าง Instagram เป็นที่น่าตกใจว่าร้อยละ 91 แทบจะไม่เคยซื้อสินค้าผ่านลิงก์บน Instagram เลย แต่สำหรับโซเชียลมีเดียลแพลตฟอร์มอื่นๆ จะไม่สูงเท่านี้ จึงทำให้เหล่านักการตลาดอออนไลน์ต่างตระหนักถึงความสำคัญ และความแตกต่างของโซเชียลมีเดียแต่ละแพลตฟอร์มว่าเหมาะกับสินค้าและบริการแบบใด

ซึ่งยอดวิวและยอด Reach ไม่ใช่คำตอบเสมอไปนั้น ต้องมาโฟกัสด้านอื่น ไม่ว่าจะเป็นยอดการลงทะเบียน สมัครสมาชิก หรือการซื้อสินค้าบริการ แทนการดูแต่ยอดวิวและยอด Reach นั่นเอง ซึ่งเหล่านักการตลาดเองต่างก็ต้องต่อยอดยอดวิว ยอด Reach เหล่านี้ แปลงเป็นให้ลูกค้าซื้อสินค้าหรือบริการให้ได้เช่นกัน