ก่อนทำ Content Marketing ต้องรู้ 4 ประเภท Content แบบไหนใช่ แบบไหนโดน
ประเภท Content สามารถแบ่งออกได้เป็นหลากหลายรูปแบบ ซึ่งแบรนด์ต่างๆ ที่หันมาสนใจด้าน Digital Marketing กันมาก การวางแผนด้าน Content Marketing จึงเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญของแบรนด์ต่างๆ ที่เปรียบเสมือนเป็นอาวุธที่ทรงพลังในสงคราม Digital Marketing
เมื่อดูจากรูปภาพ Infographic ด้านล่าง จากแนวระนาบแล้วจะเห็นได้ว่า คอนเทนต์ที่อยู่ซ้ายมือจะเอนเอียงไปทางด้าน Awareness เน้นการรับรู้เป็นส่วนใหญ่ ส่วนคอนเมนต์ด้านขวามือจะเป็น Purchase ทำให้เกิดการซื้อ มากกว่า
ส่วนเมื่อดูกราฟในแนวดิ่ง ด้านบนหมายถึงคอนเทนต์ที่เป็น Emotional เกี่ยวข้องกับทางด้านอารมณ์เป็นหลัก กลับกันกับคอนเทนต์ที่อยู่ด้านล่างจะเป็น Rational คือคอนเทนต์ที่เน้นเหตุผลมากกว่าอารมณ์นั่นเอง ซึ่งทั้งหมดนี้เรียกโดยรวมว่า Content Matrix ประเภทของคอนเทนต์โดยหลักๆ แล้วสามารถแบ่งได้ออกเป็น 4 ประเภทใหญ่ๆ คือ
คอนเทนต์เพื่อความบันเทิง (Entertainment)
คอนเทนต์ที่ถูกจัดในกลุ่มนี้คงจะหนีไม่พ้นจำพวก Meme กิจกรรม เกม คำถามชิงรางวัล รวมไปถึงโฆษณาไวรัล คอนเทนต์เหล่านี้เกิดมาเพื่อ Awareness โดยเฉพาะ สร้างความรับรู้ได้มาก โดยเฉพาะใน Social Media สำคัญอย่าง Facebook เมื่อมีคน Engagement มากขึ้น ก็เท่ากับเป็นการเผยแพร่คอนเทนต์ให้กว้างขวางและเป็นที่รับรู้มากขึ้นนั่นเอง ง่ายที่สุดคือถ้าอยากให้แบรนด์เป็นที่รู้จัก และมีคนติดตามมากขึ้น จงหันมาทำคอนเทนต์เพื่อความบันเทิง ช่วยคุณได้
คอนเทนต์เพื่อชักจูง (Inspire)
ถ้าอยากขายของได้ คอนเทนต์ที่คุณควรจะทำคือ คอนเทนต์ที่เกิดจากการรีวิวของลูกค้า หรือคอนเทนต์จากรีวิวของ Influencers (คอนเทนต์ประเภทนี้มักจะเห็นอยู่เป็นประจำ) ซึ่งมีส่วนที่ทำให้ตัดสินใจซื้อสินค้าง่ายขึ้น สำหรับการใช้อารมณ์เพื่อตัดสินใจซื้อ แล้วจะทำอย่างไรให้คนมารีวิวสินค้าหรือบริการของเรา ถ้าหากงบมีจำกัด ลองจัดกิจกรรม แจกของรางวัลเป็นสินค้า เพื่อให้ลูกค้ารีวิวกลับมา แบบนี้เท่ากับยิงครั้งเดียวได้นกถึงสองตัว เพราะเท่ากับเราได้ทำคอนเทนต์เพื่อความบันเทิง และได้คอนเทนต์สำหรับชักจูงอีกด้วย
คอนเทนต์เพื่อให้ความรู้ (Educate)
สำหรับคอนเทนต์เพื่อให้ความรู้ มักจะอยู่ในข่ายของ Infographic คู่มือการใช้งาน แนวโน้ม การวิเคราะห์ข้อมูล ฯลฯ คอนเทนต์ประเภทนี้ทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ดูดีขึ้น ดูเป็นมืออาชีพ เป็นทางการ น่าเชื่อถือ เป็นผู้รู้ ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าแบรนด์ของคุณต้องการภาพลักษณ์เหล่านี้หรือไม่ ถึงแม้ว่าคอนเทนต์ประเภทนี้อาจจะไม่ช่วยเรื่องการขายสักเท่าไรนัก แต่สามารถนำไปต่อยอดได้ ถ้ารู้จักใช้ให้เป็น คอนเทนต์ประเภทนี้เหมาะกับคอร์สสัมมนา ไลฟ์โค้ช มหาวิทยาลัย กูรูต่างๆ
คอนเทนต์เพื่อเปรียบเทียบ (Convert)
เรียกว่าเป็นคอนเทนต์โน้มน้าวใจ แต่เน้นทางด้านเหตุผลเป็นหลัก ก่อให้เกิดการเปรียบเทียบ เช่น ตารางราคาสินค้า โปรโมชั่น ความสามารถของสินค้า คอนเทนต์ประเภทนี้ทำให้เกิดการซื้อได้ง่าย ถ้าหากเราสินค้าแบรนด์ของเรามีจุดเด่นที่เห็นได้ชัด แต่อุปสรรคของคอนเทนต์ประเภทนี้มักจะไม่ค่อยก่อให้เกิดการ Awareness เรียกว่าได้อย่างก็จะเสียอย่าง สำหรับทุกแบรนด์แล้วควรทำคอนเทนต์ประเภทนี้ไว้บ้าง
ประเภท Content เลือกใช้ให้ตรงจุดประสงค์
แต่ก็ยังมีคอนเทนต์ที่อยู่กลางๆ ไม่สามารถแบ่งได้อย่างชัดเจนว่าจัดอยู่ในหมวดหมู่ใด อย่างเช่น บทความ E-Book อีเวนต์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็ขึ้นอยู่กับวิธีการเขียน รูปแบบของภาพและสื่อที่เราจะนำเสนอออกไป เมื่อได้เห็นภาพรวมของคอนเทนต์แต่ประเภทแล้วว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร ทำให้เราวางแผนการทำคอนเทนต์ได้อย่างมีระบบ และมีการทำคอนเทนต์ที่หลากหลายมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ให้ตรงกับจุดประสงค์ที่เราต้องการ
[embedit snippet=”cta1″]ติดตามบทความและสาระดีๆ จาก Digitalmarketing Wow พร้อมเสิร์ฟถึงมือคุณได้ที่ Facebook, Twitter และ Line @marketingwow
ที่มา [1]