เขียนบทความ SEO ดีแล้ว แต่ทำไมยังไม่ติดอันดับการค้นหา ที่นี่มีคำตอบ
เขียนบทความ SEO (Search Engine Optimization) นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย การที่จะเขียนให้ติดอันดับการค้นหาของกูเกิล (Google) นั้น ต้องมีทักษะและประสบการณ์พอสมควร ถึงแม้ว่าผู้ที่มีทักษะการเขียนและการวิเคราะห์ชั้นเซียนในโลกของหนังสือและนิตยสาร แต่เมื่อมาเขียนบทความ SEO เพื่อให้ติดอันดับการค้นหานั้น เป็นเรื่องที่ต่างกันออกไป
เพราะการจัดดับการค้นหาของ Google นั้น ค่อนข้างซับซ้อน แต่ถ้าทำความเข้าใจในเบื้องต้น ก็สามารถเขียนบทความ SEO ในเว็บไซต์เพื่อเรียกยอดคนคลิกและการค้นหาได้ เมื่อสำรวจแล้วว่าเขียนดีแล้ว ใช้หลักการทำตามขั้นตอน SEO ทุกอย่าง แต่ทำไมยัง ขั้นตอนแรกให้สำรวจเว็บไซต์ที่เราเขียนบทความก่อนเลยว่ามีปัญหาเหล่านี้หรือไม่
เขียนบทความ SEO บนเว็บไซต์ ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะ…
- มีคอนเทนต์ที่เหมือนกับเว็บอื่น
แน่นอนว่าการลอกคอนเทนต์มาทั้งดุ้น ไม่ใช่เรื่องที่ยอมรับได้เท่าไรนัก เมื่อ Google รู้ (รู้ได้นะ) จัดอันดับความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ให้ต่ำลง ดังนั้นอย่าเอาบทความหรือคอนเทนต์จากที่อื่นมาใส่ ควรจะเขียนบทความใหม่ขึ้นมา หรือรีไรต์จะดีกว่า - เว็บไซต์โหลดช้า
สาเหตุที่เว็บไซต์โหลดช้ามีมากมาย แต่มีผลการสำรวจแล้วว่า ยิ่งเว็บไซต์โหลดช้าเท่าไร มีโอกาสที่จะผู้ใช้งานปิดหน้าเว็บสูงขึ้น และทำให้ Google จัดลดอันดับของเว็บไซต์ลง โดยสามารถเช็กว่าเว็บไซต์ของเราติดปัญหาในเรื่องใดได้ที่นี่ - จัดการเว็บไซต์ได้ไม่ดีพอ
ไม่ว่าจะเป็นลิงก์เสีย ไม่ใส่ข้อมูล Meta descriptions การเขียนโค้ดที่ไม่เป็นมิตรกับการโหลดเว็บไซต์ ไม่มีการแบ่งหมวดหมู่ ทั้งหมดทั้งมวลนี้ต่างมีผลต่อการจัดอันดับทั้งสิ้น - เว็บไซต์ไม่รองรับมือถือ
ในปัจจุบันนี้ ยอดขายสมาร์ตโฟนเติบโตขึ้นสูงมาก และมีผู้คนกว่าร้อยละ 60 ที่ใช้มือถือค้นหาสิ่งที่ตัวเองต้องการ ไม่ว่าจะเป็นคอนเทนต์ สินค้าและบริการ จึงทำให้เป็นยุคที่เว็บไซต์ต้องปรับตัวรองรับสมาร์ตโฟนให้ได้
ถ้าหากพบว่าเว็บไซต์มีปัญหาเหล่านี้ จึงควรปรับปรุงอย่างเร่งด่วน เพื่อให้บทความ และคอนเทนต์ SEO ของเราติดค้นหาเป็นลำดับต้นๆ และช่วยให้เว็บไซต์มีความน่าเชื่อถือในสายตาของ Google มากขึ้น ซึ่งจะจัดว่าเป็นเว็บไซต์ที่มีคุณภาพ และทำให้การจัดอันดับคีย์เวิร์ดดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับการตลาดออนไลน์ และแก็ดเจ็ตใหม่ๆ ได้ที่
Facebook, Twitter