Call to action คืออะไร สำคัญแค่ไหน และมีส่วนช่วยกระตุ้นการตัดสินใจได้อย่างไร
Call to action คืออะไร อาจต้องเกริ่นนำก่อนว่าโฆษณาไม่ว่าจะเป็นทั้งออฟไลน์หรือออนไลน์ก็ตาม เชื่อได้ว่าทุกคนได้เห็น หรือได้ยิน Call to Action เป็นประจำ แต่น้อยคนที่จะรู้ตัวว่ามันคืออะไร เราจะมาหาคำตอบกันว่า Call to action คืออะไร สำคัญแค่ไหน
Call to action คืออะไรกันล่ะในแง่มุมของการตลาด และสำคัญไหม?
Call to action คือการใช้คำ เสียง หรือตัวอักษร เพื่อก่อให้เกิดกระตุ้นการตัดสินใจ (โดยทางการตลาดมักมีคำเรียกย่อว่า CTA) ซึ่งมักจะใช้คำที่เป็นกริยา เพื่อสั่งให้คนที่เห็นโฆษณาทำตาม เช่น สั่งซื้อเลย โทรหาเราเดี๋ยวนี้ ดาวน์โหลดฟรี ดูฟรี เพิ่มลงในตะกร้า ฯลฯ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยกระตุ้นคนที่เสพโฆษณาคล้อยตามและทำตามที่ Call to action ได้บอกไว้
แต่แน่นอนว่า Call to Action ไม่ใช่ของใหม่ ในโลกของการตลาดแล้ว การตลาดแบบดั้งเดิม ก็นิยมใช้งาน Call to action กับเป็นประจำ เช่นในบิลบอร์ด มักมีคำตัวโต ๆ ว่า “โทร” เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจ หรือจะเป็นโฆษณาขายสินค้าทางโทรทัศน์ มักจะพากย์เสียงตอกย้ำ เช่น “เมื่อซื้อสินค้าของเราวันนี้ รับฟรีทันที ของแถมจำนวน 1 ชุด โทรเลย 02-xxx-xxxx” ทำให้คนที่ฟังคล้อยตาม
พอมาเป็นการตลาดออนไลน์ Call to action ได้ขยายตัวมากขึ้น มีหลายคำให้เลือกใช้ตามวัตถุประสงค์ และไม่เป็นเพียงแค่ข้อความหรือเสียงอีกต่อไป แต่ยังมีลักษณะพิเศษที่เพิ่มขึ้นตามที่ที่ Call to action ไปอยู่ เช่นเป็นแบนเนอร์ กล่องข้อความ ปุ่มสีสันสดใส หรือแบบขยับได้ก็มี ซึ่ง Call to action นี้มีประโยชน์มากในด้านของการตลาด เพราะช่วยเร่งให้เกิดการตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว และไม่ว่าจะเว็บไซต์ไหน หรือการทำแคมเปญโฆษณาใด ๆ มักจะปรากฏ Call to action อยู่เป็นประจำ ซึ่งถ้าคุณสังเกตดูที่ท้ายของบทความนี้ คุณจะเห็น Call to action มากมาย เพื่อให้คุณดาวน์โหลด E-Book หรือลงทะเบียนคอร์สกับทาง Digital Marketing Wow
ออกแบบ Call to action อย่างไรให้โดน
ตัวอย่าง Call to action ของเว็บไซต์ Netflix
- เขียน
แน่นอนว่าการเขียนคือพื้นฐานของการทำ Call to action แนะนำว่าให้เขียนโดยใช้คำกริยานำหน้า เหมาะกับสินค้าบริการของเรา และตอบโจทย์ Goal ที่เราต้องการ เช่นถ้าเราทำธุรกิจโรงแรม อาจระบุเลยว่า “จองเพื่อรับราคาส่วนลด” หรือถ้าทำอสังหาริมทรัพย์ก็ควรจะเป็น “ลงทะเบียนทันทีเพื่อรับสิทธิพิเศษ” หรือถ้าเป็นดีลเลอร์รถยนต์ก็อาจใช้ “ทดลองขับรถสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม” ซึ่งจะสั้นหรือยาวก็ขึ้นอยู่กับลักษณะของที่ Call to action ไปอยู่ ถ้าบนโฆษณาของ Google ads หรือ Facebook ads ก็สั้นไม่ยาวมาก แต่ถ้าเป็นแบนเนอร์ที่เราทำเอง อาจจะยาวได้มากกว่านั้น แต่ก็ไม่ควรยาวจนเกินไป - ดีไซน์และออกแบบ
ใช้หลักการเดียวกันไม่ว่าจะเป็นบนปุ่มบนเว็บไซต์ปุ่มบนแบนเนอร์ นั่นคือต้องมองเห็น Call to action ได้อย่างชัดเจน ตัวต้องใหญ่พอที่จะมองเห็น ถ้าเล็กเกินจะไม่เป็นจุดเด่น และสีต้องไม่จม ดูโดดเด่น เน้นอยากให้คลิก ซึ่งในยุคปัจจุบันนี้ Call to Action มักจะใช้ปุ่มรูปแบบที่ดูเรียบง่าย ไม่รกจนเกินไป ทำให้ช่วยขับความโดดเด่นของ Call to action ออกมา - อย่าลืม User Experience
อันนี้สำคัญในการทำเว็บไซต์ เพราะการที่จะให้คนกดที่ Call to action จำเป็นที่จะต้องมีความรู้ในด้านเว็บไซต์เกี่ยวกับ User Experience อยู่บ้าง เช่นเรามักจะเห็นปุ่ม Call to action อยู่บริเวณด้านบนหรือไม่ก็กึ่งกลางของเว็บไซต์ หลายที่อาจจะมีป๊อบอัพเล็กกลางเว็บไซต์ หรือมุมใดมุมหึ่ง แต่ให้มาอยู่ส่วน Footer ของเว็บไซต์ก็ดูจะแปลกไปเสียหน่อย เพราะคนส่วนน้อยที่จะเลื่อนมายังส่วนของ Footer
จากที่กล่าวมานั้นจะเห็นว่า Call to action มีส่วนสำคัญกับการทำการตลาดตั้งแต่ออฟไลน์จนมาถึงออนไลน์ ดังนั้นจึงอย่าละเลยใส่ใจถึง Call to action ด้วย เพราะเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้ Conversion Rate เพิ่มขึ้นได้อย่างชัดเจน
ที่มาและรูปภาพบางส่วนจาก [1], [2]
ติดตามข่าวสาร ได้ที่เว็บไซต์ Digital Marketing Wow และ เพจ Facebook และ Line @marketingwow
Thanakarn Lertsudwichai x Digital Marketing Wow