SEO สำหรับรูปภาพ ด้วยวิธีง่าย ๆ 6 วิธี ทำให้ติดอันดับ Google Image สูงขึ้น

 In Digital Marketing

SEO สำหรับรูปภาพ หลายคนอาจสงสัยว่ามีด้วยหรือ ปกติเคยเห็นแต่การทำ SEO สำหรับบทความ แน่นอนว่า SEO สำหรับรูปภาพเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่จะทำให้เกิดการติดอันดับสำหรับรูปภาพ และเพิ่มทราฟิกได้ดีมากยิ่งขึ้น ซึ่งรูปภาพยังเป็นส่วนเสริมในบทความ จำเป็นที่จะต้องมีรูปภาพเป็นส่วนประกอบอยู่แล้ว จะดีมากกว่าเดิมไหม ถ้า SEO ที่เราทำ ติดทั้งบทความและรูปภาพ

  1. ลดขนาดรูปลงให้พอเหมาะ

รูปที่มีขนาดใหญ่ และ Resolution สูง ๆ จะทำให้อัพโหลด และดาวน์โหลดช้า ส่งผลที่ไม่ดีต่อตัวเว็บไซต์เอง ทำให้เว็บไซต์หนัก การดาวน์โหลดก็ช้าตาม แน่นอนย่อมส่งผลไปถึงประสบการณ์ผู้ใช้งาน เมื่อเจอเว็บไซต์ที่ต้องใช้เวลาในการโหลดนาน ก็ทำให้ Google ประเมินได้ว่าเว็บไซต์เรานั้น มีประสิทธิภาพต่ำในการดาวน์โหลดหน้าเพจเช่นกัน ทำให้ติดอันดับได้ยาก

ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องย่อขนาด อาจให้เหลือเพียงพอเหมาะ ขนาดไม่ใหญ่จนเกินไป อาจอยู่ที่ 100-200 kb ถ้าทำได้ แต่ถ้าเป็นเว็บไซต์ที่ต้องให้เห็นรูปภาพเต็ม ๆ เช่นการรีวิวกล้องมือถือ อาจย่อขนาดรูป และให้ไปดูรูปเต็มต่อในลิงก์ที่อัพโหลดรูปไว้ให้ก็ได้

  1. SEO สำหรับรูปภาพ ชื่อรูปต้องมีคีย์เวิร์ดอยู่ในนั้น

ชื่อรูป คือก่อนที่เราจะอัพโหลดรูปไปในระบบ เรียกว่ามีความสำคัญมาก ๆ ต่อการทำ SEO สำหรับรูปภาพ และควรมีคีย์เวิร์ดอยู่ในนั้น จำเป็นต้องมีความเกี่ยวข้องกับเนื้อหาในบทความ ถ้าชื่อไฟล์รูปมีความกำกวม แนะนำให้เปลี่ยนเสีย เช่นถ้าเป็นชื่อไฟล์รูป “บทความSEO3698” อาจลองเปลี่ยนเป็น “SEO-สำหรับรูปภาพ-หน้าปก” ทำนองนี้ จะช่วยทำให้ชัดเจนได้มากขึ้น

  1. อย่าลืมเติม Alt Text

แน่นอนว่าคนเมื่อเห็นรูปภาพก็จะเข้าใจได้ทันที ว่ารูปนั้นเกี่ยวกับอะไร แต่สำหรับ Search Engine แล้ว หลักการทำงานต่างออกไปจากคน Alt Text คือข้อความสำหรับอธิบายรูปภาพ ว่ารูปภาพนั้นเกี่ยวกับอะไร ถ้าเอาเมาส์ชี้ไปที่รูป คำอธิบายก็จะโผล่ขึ้นมา มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าชื่อและ Title ของรูปภาพเลย อาจใส่เพื่ออธิบายขยายคำให้มากกว่าชื่อรูปภาพ และอย่าลืมว่าต้องมีคีย์เวิร์ดอยู่ในนั้นด้วย

SEO สำหรับรูปภาพ

  1. ใส่ Title ของรูปภาพด้วย

หากคุณใช้เว็บไซต์ที่เป็น WordPress ทุกครั้งที่อัพโหลดรูปลงไป ก็จะดึงมาจากชื่อไฟล์รูปเลย โดยจะมีช่องสำหรับใส่ Title ของรูปภาพ ไม่ดีเลยหากปล่อยว่างเว้นไว้เฉย ๆ ถึงแม้ว่า Title ของรูปภาพจะมีผลต่อ SEO น้อยกว่าชื่อรูปก็จริง แต่ค่อนช้างส่งผลต่อ Engagement เอาเป็นว่าใส่ลงไปด้วย ถ้ามีคีย์เวิร์ดเป็นส่วนประกอบจะยิ่งดี

  1. Caption ของรูปก็มีประโยชน์

แคปชันของรูป คือส่วนที่อธิบายอยู่ใต้รูปภาพว่าคือภาพอะไร หรืออาจใส่ที่มาเพื่อขยายความก็ได้ ถึงแม้ว่าส่วนที่เป็น Caption จะมีผลน้อยมากต่อ SEO ของรูปภาพ เมื่อเทียบกับ Title ชื่อรูป หรือ Alt Text ก็ตาม แต่ก็ไม่ควรละเลย ใส่เข้าไปให้ครบด้วยจะดีกว่า

  1. พยายามใช้รูปที่สร้างสรรค์เอง

รูปที่สร้างสรรค์เองนั้นคือรูปที่ถ่ายขึ้นมาเอง หรือรูปที่สร้างสรรค์ขึ้นมาด้วยโปรแกรมดิจิทัล ย่อมดีกว่าการใช้รูปเดิม ๆ ซ้ำ ๆ ซึ่งเป็นผลดี ต่อ SEO มากกว่า แต่ถ้าคุณต้องใช้ Stock Photo ที่มีขายทั่วไป ก็สามารถใช้ได้เช่นกัน

จะเห็นได้ว่าวิธีที่ทำ SEO กับรูปภาพ มีความสำคัญค่อนข้างมาก ไม่แพ้การทำ SEO สำหรับการเขียนบทความเลยทีเดียว อย่างน้อยก็เป็นส่วนเสริมที่ทำให้บทความของเราติดอันดับในหน้าผลการค้นหาในหน้าแรกได้

ที่มาบางส่วนจาก [1]

ติดตามข่าวสาร ได้ที่เว็บไซต์ Digital Marketing Wow และ เพจ Facebook และ Line @marketingwow

Thanakarn Lertsudwichai x Digital Marketing Wow

Recommended Posts